เพลง : SWEETNESS
ศิลปิน : วงตาวัน
อัลบั้ม : 12 ราศี (พ.ศ. 2536)
คำร้อง : Todd Lavelle
ทำนอง : พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
Sweetness lived beyond the night just behind my door
a love you see a friend to me and everything more
once a child in the twice the time her laughs and tears soon became mine
run across the fields and days forever we’d say
sweetness played the momma’s hand i’d pretend the man
skipped the roadside, played the fieldside fantasies we had
raced through school to laughing fools time was ours at every turn
up and under, rolled loke thunder we’d love to burn
na……….
lassie come to lady sweetness come to sorrow
faster faster than a stolen glance the day become the morrow
school days soon are family ways the fire of youth is left in embers
sweetness swears she can still still remember
chance and distance seperate us somewhere comes the night
in those eyes that once were candy comething just ain’tright
a whisper here, a shout in fear a husband’s voice can soon be heard
sweetness leaves me wonderin with no word
na……….
shotgun blast and soon the past is shattered with the night
husband bead beyond the bed sweetness out of sight
day of youth distrot the truth i will away each ageing hour
wonderin how sweetness turns turns to sour
sweetness lived all there is hurt on fire no desire
sweetness goes time sure knows years and miles steal the child
เรนโบว์-แจ้ ดนุพล-เพื่อน-พลอย-ติ๊ก ชิโร่-ฟอร์เอฟเวอร์-ตู้ดิเรก-ดอน สอนระเบียบ-โอเวชั่น-ปานามา-นิรนาม-ดิ อิโนเซนท์-ดอกไม้ป่า-โอเวชั่น-รอยัลสไปร์ท-มะลิลาบราซิลเลี่ยน-สามโทน-สามารถ-นกแล-อนันต์ บุนนาค-จำรัส เศวตาภรณ์-แหวน ธิติมา-อรวี สัจจานนท์-โดม มาร์ติน-ชาตรี-จรัล มโนเพชร-สุชาติ ชวางกูร-พิงค์แพนเตอร์-นัดดา วิยกาญจน์-จันทนีย์ อุนากูล-ภูสมิง หน่อสวรรค์-แกรนเอ็กซ์-ฟรุ๊ตตี้-สาวสาวสาว-แสงระวี -ปวีณา ชารีฟสกุล-มอร์กะจาย-อีสซึ่น-พัชรา แวงวรรณ-อ๊อด คีรีบูน-ตาวัน
วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553
คนอ่อนไหว-มีน Sex of Pisces
คนอ่อนไหว-มีน Sex of Pisces
เรี่ยวแรงเหือดแห้งไป เพราะหัวใจล้าเต็มทน
เฝ้าคอยอย่างมืดมน รอคำคนไม่จริงใจ
คำที่เคยอ่อนหวาน อยู่ในใจของคนอ่อนไหว
กลับกลายเป็นถ้อยคำห่างไกล และเย็นชา
สองมือโอบรอบกาย คราวที่ใจฉันหนาวสั่น
นุ่มนวลและเนิ่นนาน นานจนความหนาวจางไป
มือที่เคยอุ่นไอ กอดประคองหัวใจอ่อนไหว
กลับกลายเป็นหนามคมกรีดใจ และวิญญาณ
โอบกอดฉันสักครั้ง ประทังวันตาย เมื่อใจมันยังไม่ยอมข่ม
ปลอบใจฉันสักครั้งด้วยคำเย็นชา และมือที่มีแต่หนามคม
ย้ำให้จมเจ็บลึกลงไปกว่าเดิม...
โอบกอดฉันสักครั้ง ประทังวันตาย เมื่อใจมันยังไม่ยอมข่ม
ปลอบใจฉันสักครั้งด้วยคำเย็นชา และมือที่มีแต่หนามคม
ย้ำให้จมเจ็บลึกลงไปกว่าเดิม...
เอื้อมมือไขว่คว้างเงา เงาของเธอยิ่งลางเลือน
ร่องรอยที่ย้ำเตือน มีเพียงรอยแผลในใจ
ลมหายใจสุดท้าย ฝากคำวอนถึงคนห่างไกล
กลับมาทำร้ายคนอ่อนไหว ...ที่ยังคอย
ถึงวันสุดท้าย...ของคนอ่อนไหว
ถึงวันสุดท้าย...ของคนอ่อนไหว
เรี่ยวแรงเหือดแห้งไป เพราะหัวใจล้าเต็มทน
เฝ้าคอยอย่างมืดมน รอคำคนไม่จริงใจ
คำที่เคยอ่อนหวาน อยู่ในใจของคนอ่อนไหว
กลับกลายเป็นถ้อยคำห่างไกล และเย็นชา
สองมือโอบรอบกาย คราวที่ใจฉันหนาวสั่น
นุ่มนวลและเนิ่นนาน นานจนความหนาวจางไป
มือที่เคยอุ่นไอ กอดประคองหัวใจอ่อนไหว
กลับกลายเป็นหนามคมกรีดใจ และวิญญาณ
โอบกอดฉันสักครั้ง ประทังวันตาย เมื่อใจมันยังไม่ยอมข่ม
ปลอบใจฉันสักครั้งด้วยคำเย็นชา และมือที่มีแต่หนามคม
ย้ำให้จมเจ็บลึกลงไปกว่าเดิม...
โอบกอดฉันสักครั้ง ประทังวันตาย เมื่อใจมันยังไม่ยอมข่ม
ปลอบใจฉันสักครั้งด้วยคำเย็นชา และมือที่มีแต่หนามคม
ย้ำให้จมเจ็บลึกลงไปกว่าเดิม...
เอื้อมมือไขว่คว้างเงา เงาของเธอยิ่งลางเลือน
ร่องรอยที่ย้ำเตือน มีเพียงรอยแผลในใจ
ลมหายใจสุดท้าย ฝากคำวอนถึงคนห่างไกล
กลับมาทำร้ายคนอ่อนไหว ...ที่ยังคอย
ถึงวันสุดท้าย...ของคนอ่อนไหว
ถึงวันสุดท้าย...ของคนอ่อนไหว
วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553
Stand By Me-Oasis
Stand By Me-Oasis
Made a meal and threw it up on Sunday I've -
Gotta lot of things to learn
Said I would and I'll be leaving one day -
Before my heart starts to burn
So what's the matter with you?
Sing me something new... don't you know
The cold and wind and rain don't know
They only seem to come and go away
Times are hard when things have got no meaning
I've found a key upon the floor
Maybe you and I will not believe in the things we find
Behind the door
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
If you're leaving will you take me with you
I'm tired of talking on my phone
There is one thing I can never give you
My heart can never be your home
ยืนอยู่เคียงข้างฉัน
เตรียมอาหารเสร็จแล้วฉันก็รีบจัดการกับมันซะในตอนเช้าวันอาทิตย์
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันจะต้องเรียนรู้
และฉันก็เชื่อว่าฉันจะต้องเข้าใจในสิ่งเหล่านั้น ก่อนที่หัวใจจะถูกเผาผลาญไปซะก่อน
แต่แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
เธอถึงได้มาร่ำร้องหาสิ่งใหม่ ๆ กับฉัน..เธอรู้รึเปล่า
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็ตาม..มันก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ในขณะที่สิ่งต่าง ๆ ช่างยากเย็นและไร้ความหมาย
ฉันค้นพบคำตอบของเรื่องเหล่านั้น
ทั้งเธอและฉันอาจจะไม่เชื่อในสิ่งที่เราพบ
มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เบื้องหลังประตูแห่งคำตอบ
เธอถึงได้มาร่ำร้องหาสิ่งใหม่ ๆ กับฉัน..เธอรู้รึเปล่า
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ มันก็ไม่สนใจความเป็นไปทั้งนั้น
เพราะมันก็แค่เพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านพ้นไป
โปรดยืนอยู่เคียงข้างฉันเถอะ..เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ถ้าหากเธอจะก้าวต่อไป ก็ได้โปรดพาฉันไปกับเธอด้วย..
ฉันเบื่อกับการโทรหากันแล้ว
มีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่สามารถให้กับเธอได้
นั่นก็คือหัวใจของฉันไม่สามารถที่จะตามไปหาเธอได้
ก็แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก..เธอถึงได้มานั่งคร่ำครวญอยู่เช่นนี้
รู้มั๊ย..ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ มันก็ไม่สนใจหรอก
เพราะมันก็แค่ผ่านมาแล้วก็จากไป
ได้โปรดยืนอยู่เคียงข้างฉัน..
ไม่มีใครรู้เลยว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร....
Made a meal and threw it up on Sunday I've -
Gotta lot of things to learn
Said I would and I'll be leaving one day -
Before my heart starts to burn
So what's the matter with you?
Sing me something new... don't you know
The cold and wind and rain don't know
They only seem to come and go away
Times are hard when things have got no meaning
I've found a key upon the floor
Maybe you and I will not believe in the things we find
Behind the door
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
Stand by me - nobody knows the way it's gonna be
If you're leaving will you take me with you
I'm tired of talking on my phone
There is one thing I can never give you
My heart can never be your home
ยืนอยู่เคียงข้างฉัน
เตรียมอาหารเสร็จแล้วฉันก็รีบจัดการกับมันซะในตอนเช้าวันอาทิตย์
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันจะต้องเรียนรู้
และฉันก็เชื่อว่าฉันจะต้องเข้าใจในสิ่งเหล่านั้น ก่อนที่หัวใจจะถูกเผาผลาญไปซะก่อน
แต่แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
เธอถึงได้มาร่ำร้องหาสิ่งใหม่ ๆ กับฉัน..เธอรู้รึเปล่า
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็ตาม..มันก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ในขณะที่สิ่งต่าง ๆ ช่างยากเย็นและไร้ความหมาย
ฉันค้นพบคำตอบของเรื่องเหล่านั้น
ทั้งเธอและฉันอาจจะไม่เชื่อในสิ่งที่เราพบ
มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เบื้องหลังประตูแห่งคำตอบ
เธอถึงได้มาร่ำร้องหาสิ่งใหม่ ๆ กับฉัน..เธอรู้รึเปล่า
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ มันก็ไม่สนใจความเป็นไปทั้งนั้น
เพราะมันก็แค่เพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านพ้นไป
โปรดยืนอยู่เคียงข้างฉันเถอะ..เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ถ้าหากเธอจะก้าวต่อไป ก็ได้โปรดพาฉันไปกับเธอด้วย..
ฉันเบื่อกับการโทรหากันแล้ว
มีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่สามารถให้กับเธอได้
นั่นก็คือหัวใจของฉันไม่สามารถที่จะตามไปหาเธอได้
ก็แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก..เธอถึงได้มานั่งคร่ำครวญอยู่เช่นนี้
รู้มั๊ย..ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ มันก็ไม่สนใจหรอก
เพราะมันก็แค่ผ่านมาแล้วก็จากไป
ได้โปรดยืนอยู่เคียงข้างฉัน..
ไม่มีใครรู้เลยว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร....
Don't Look Back in Anger-Oasis
Don't Look Back in Anger-Oasis
Slip inside the eye of your mind
Don't you know you might find
A better place to play
You said that you'd once never been
All the things that you've seen
Will slowly fade away
มองเข้าไปในแววตาเธอ
เธอไม่รู้หรอกหรือ.. ว่าเธออาจได้พบ
ดินแดนอันแสนสุขให้เธอได้โลดแล่น
เธอกลับบอก.. เธอนั้นไม่เคยได้สัมผัสถึงแม้เพียงครั้ง
ทุกสรรพสิ่งที่เธอได้เคยพบเห็น
ค่อยๆ เลือนลางจางหายไป
So I start the revolution from my bed
Cos you said the brains I have went to my head
Step outside the summertime's in bloom
Stand up beside the fireplace
Take that look from off your face
You ain't ever gonna burn my heart out
เหตุนี้ฉันจึงอยากเริ่มปรับความเข้าใจของเราสอง
และเธอเองก็ดูออกว่าฉันมีบางสิ่งที่อยากจะบอก
ยามนี้ที่เราก้าวย่างไปสู่ห้วงเวลาที่รักเบ่งบาน
ดั่งยืนเคียงข้างเตาผิงที่คอยให้ไออุ่น
ฉันหยุดสายตาตรงที่ใบหน้าเธอ
รู้ไหมว่า.. เธอทำให้ใจของฉันนั้นแทบละลาย
So Sally can wait, she knows its too late as we're walking on by
Her soul slides away, but don't look back in anger I hear you say
และเป็นเธอที่รออยู่ เธอรู้ดีว่ามันสายไปกับสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ หากต้องจำพรากจากกัน
ให้รักพาใจล่องลอยไป แต่จงอย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย ฉันรับรู้ที่เธอบอกเสมอ
Take me to the place where you go
Where nobody knows if it's night or day
Please don't put your life in the hands
Of a Rock n Roll band
Who'll throw it all away
ให้ฉันติดตามเธอไปในทุกที่ที่เธอไป
ที่ซึ่งอยู่เหนือกาลเวลา
แต่จงอย่าได้ฝากชีวิตไว้กับคนอย่างฉันเลย
เพียงคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ที่ชีวิตดั่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย
So I start the revolution from my bed
Cos you said the brains I have went to my head
Step outside the summertime's in bloom
Stand up beside the fireplace
Take that look from off your face
You ain't ever gonna burn my heart out
เหตุนี้ฉันจึงอยากเริ่มปรับความเข้าใจของเราสอง
และเธอเองก็ดูออกว่าฉันมีบางสิ่งที่อยากจะบอก
ยามนี้ที่เราก้าวย่างไปสู่ห้วงเวลาที่รักเบ่งบาน
ดั่งยืนเคียงข้างเตาผิงที่คอยให้ไออุ่น
ฉันหยุดสายตาตรงที่ใบหน้าเธอ
รู้ไหมว่า.. เธอทำให้ใจของฉันนั้นแทบละลาย
So Sally can wait, she knows its too late as we're walking on by
Her soul slides away, but don't look back in anger I hear you say
และเป็นเธอที่รออยู่ เธอรู้ดีว่ามันสายไปกับสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ หากต้องจำพรากจากกัน
ให้รักพาใจล่องลอยไป แต่จงอย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย ฉันรับรู้ที่เธอบอกเสมอ
Don't look back in anger
Don't look back in anger
Don't look back in anger
At least not today
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
แม้ว่าวันนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นก็ตาม
Slip inside the eye of your mind
Don't you know you might find
A better place to play
You said that you'd once never been
All the things that you've seen
Will slowly fade away
มองเข้าไปในแววตาเธอ
เธอไม่รู้หรอกหรือ.. ว่าเธออาจได้พบ
ดินแดนอันแสนสุขให้เธอได้โลดแล่น
เธอกลับบอก.. เธอนั้นไม่เคยได้สัมผัสถึงแม้เพียงครั้ง
ทุกสรรพสิ่งที่เธอได้เคยพบเห็น
ค่อยๆ เลือนลางจางหายไป
So I start the revolution from my bed
Cos you said the brains I have went to my head
Step outside the summertime's in bloom
Stand up beside the fireplace
Take that look from off your face
You ain't ever gonna burn my heart out
เหตุนี้ฉันจึงอยากเริ่มปรับความเข้าใจของเราสอง
และเธอเองก็ดูออกว่าฉันมีบางสิ่งที่อยากจะบอก
ยามนี้ที่เราก้าวย่างไปสู่ห้วงเวลาที่รักเบ่งบาน
ดั่งยืนเคียงข้างเตาผิงที่คอยให้ไออุ่น
ฉันหยุดสายตาตรงที่ใบหน้าเธอ
รู้ไหมว่า.. เธอทำให้ใจของฉันนั้นแทบละลาย
So Sally can wait, she knows its too late as we're walking on by
Her soul slides away, but don't look back in anger I hear you say
และเป็นเธอที่รออยู่ เธอรู้ดีว่ามันสายไปกับสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ หากต้องจำพรากจากกัน
ให้รักพาใจล่องลอยไป แต่จงอย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย ฉันรับรู้ที่เธอบอกเสมอ
Take me to the place where you go
Where nobody knows if it's night or day
Please don't put your life in the hands
Of a Rock n Roll band
Who'll throw it all away
ให้ฉันติดตามเธอไปในทุกที่ที่เธอไป
ที่ซึ่งอยู่เหนือกาลเวลา
แต่จงอย่าได้ฝากชีวิตไว้กับคนอย่างฉันเลย
เพียงคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ที่ชีวิตดั่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย
So I start the revolution from my bed
Cos you said the brains I have went to my head
Step outside the summertime's in bloom
Stand up beside the fireplace
Take that look from off your face
You ain't ever gonna burn my heart out
เหตุนี้ฉันจึงอยากเริ่มปรับความเข้าใจของเราสอง
และเธอเองก็ดูออกว่าฉันมีบางสิ่งที่อยากจะบอก
ยามนี้ที่เราก้าวย่างไปสู่ห้วงเวลาที่รักเบ่งบาน
ดั่งยืนเคียงข้างเตาผิงที่คอยให้ไออุ่น
ฉันหยุดสายตาตรงที่ใบหน้าเธอ
รู้ไหมว่า.. เธอทำให้ใจของฉันนั้นแทบละลาย
So Sally can wait, she knows its too late as we're walking on by
Her soul slides away, but don't look back in anger I hear you say
และเป็นเธอที่รออยู่ เธอรู้ดีว่ามันสายไปกับสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ หากต้องจำพรากจากกัน
ให้รักพาใจล่องลอยไป แต่จงอย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย ฉันรับรู้ที่เธอบอกเสมอ
Don't look back in anger
Don't look back in anger
Don't look back in anger
At least not today
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
อย่าให้รักนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเราเลย
แม้ว่าวันนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นก็ตาม
วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553
Miles Away-Madonna
just woke up from a fuzzy dream
ฉันเพิ่งตื่นจากความฝันที่ลางเลือน
You never would believe those things that I had seen
เธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันได้เห็นเลยเลยว่า
I looked in the mirror and I saw your face
ฉันมองกระจก และเห็นหน้าเธอ
You looked right through me, you were miles away
เธอจ้องมองมาที่ฉัน (แต่)เธออยู่ห่างออกไปหลายไมล์(ไกลมาก)
All my dreams they fade away
ความฝันทั้งหมดของฉันมันจางไป
I'll never be the same
ฉันจะไม่เหมือนเดิม
If you could see me the way you see yourself
ถ้าเธอสามารถมองฉันแบบเดียวกับที่เธอมองตัวเอง
I can't pretend to be someone else
ฉันไม่สามารถเสแสร้งที่จะเป็นคนอื่นได้
You always love me more, miles away
เธอรักฉันมากขึ้นเสมอ, (เมื่อ)ไกล(กัน)ออกไป
I hear it in your voice, we're miles away
ฉันได้ยินเสียงเธอ เมื่อเธออยู่ไกลออกไป
You're not afraid to tell me, miles away
เธอไม่กลัวที่จะบอกฉัน (เมื่อ)ไกล(กัน)ออกไป
I guess we're at our best when we're miles away
ฉันเดาว่าเราต่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเราอยู่ห่างไกลกัน
So far away
ไกลกันมากๆ
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
When no one's around then I have you here
เมื่อไม่มีใคร(ฉัน)ห้อมล้อมเลย ฉันมีเธอ(เคียงข้าง)อยู่ที่นี่
I begin to see the picture, it becomes so clear
ฉันเริ่มเห็นภาพนั้น มันเริ่มชัดขึ้น
You always have the biggest heart,
เธอมีหัวใจที่เข้มแข็งที่สุดเสมอ
When we're six thousand miles apart
เมื่อเราอยู่ห่างกัน 6000 ไมล์ (ไกลกันมากๆ)
Too much of no sound
ไกลมากจนไม่ได้ยินเสียง(ของกันและกัน)
Uncomfortable silence can be so loud
ความเงียบที่ปวดร้าวสามารถที่จะกลับกลายเป็นความดัง(อึกทึก)
Those three words are never enough
คำสามคำ(I love you-ฉันรักเธอ)
นั้นไม่เคยเพียงพอเลย
When it's long distance love
เมื่อมันเป็นรักที่ห่างไกล
You always love me more, miles away
เธอรักฉันมากขึ้น เมื่อเราห่างกัน
I hear it in your voice, we're miles away
ฉันได้ยินเสียงเธอ เมื่อเธออยู่ไกลออกไป
You're not afraid to tell me, miles away
เธอไม่กลัวที่จะบอกฉัน (เมื่อ)ไกล(กัน)ออกไป
I guess we’re at our best when we're miles away
ฉันเดาว่าเราต่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเราอยู่ห่างไกลกัน
So far away
ไกลกันมากๆ
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
So far away
I'm alright, don't be sorry, but it's true
ฉันสบายดี,ไม่ต้องขอโทษ,แต่มันจริงๆนะ
When I'm gone you'll realize
เมื่อฉัน(จาก)ไปแล้วเธอจะระลึกได้
That I'm the best thing that happened to you
ว่าฉันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเธอ
You always love me more, miles away
เธอรักฉันมากขึ้น เมื่อเราห่างกัน
I hear it in your voice, we're miles away
ฉันได้ยินเสียงเธอ เมื่อเธออยู่ไกลออกไป
You're not afraid to tell me, miles away
เธอไม่กลัวที่จะบอกฉัน (เมื่อ)ไกล(กัน)ออกไป
I guess we're at our best when we're miles a-a-away.
ฉันเดาว่าเราต่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเราอยู่ห่างไกลกัน
You always love me more, miles away
เธอรักฉันมากขึ้น เมื่อเราห่างกัน
I hear it in your voice, we're miles away
ฉันได้ยินเสียงเธอ เมื่อเธออยู่ไกลออกไป
You're not afraid to tell me, miles away
เธอไม่กลัวที่จะบอกฉัน (เมื่อ)ไกล(กัน)ออกไป
I guess we’re at our best when we're miles away
ฉันเดาว่าเราต่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเราอยู่ห่างไกลกัน
So far away
ไกลกันมากๆ
So far away
วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553
รักคือฝันไป-สาว สาว สาว
รักคือฝันไป-สาว สาว สาว
รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารักกันทำไม
รักของเธอ พาใจข้าเศร้าหมอง
บางครั้งจอง ให้ใจ ฉันสุขสันต์
เมื่อมีรัก ไม่จริง ใจต่อกัน
ทุกคืนวัน ผ่านมา ฉันฝันไป
รักคือดวงจันทร์ (รักคือดวงจันทร์) รักคือตะวัน (รักคือตะวัน )
รักคือไฟอัน ร้อนแรง ไร้จุดหมาย
แต่รักฉัน คือฝันไป ค่ำลงดวงใจ ฉันได้แต่ฝัน
รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารักกันทำไม
รักของเธอ พาใจข้าเศร้าหมอง
บางครั้งจอง ให้ใจ ฉันสุขสันต์
เมื่อมีรัก ไม่จริง ใจต่อกัน
ทุกคืนวัน ผ่านมา ฉันฝันไป
รักคือดวงจันทร์ (รักคือดวงจันทร์) รักคือตะวัน (รักคือตะวัน )
รักคือไฟอัน ร้อนแรง ไร้จุดหมาย
แต่รักฉัน คือฝันไป ค่ำลงดวงใจ ฉันได้แต่ฝัน
รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารักกันทำไม
รักของเธอ พาใจข้าเศร้าหมอง
บางครั้งจอง ให้ใจ ฉันสุขสันต์
เมื่อมีรัก ไม่จริง ใจต่อกัน
ทุกคืนวัน ผ่านมา ฉันฝันไป
รักคือดวงจันทร์ (รักคือดวงจันทร์) รักคือตะวัน (รักคือตะวัน )
รักคือไฟอัน ร้อนแรง ไร้จุดหมาย
แต่รักฉัน คือฝันไป ค่ำลงดวงใจ ฉันได้แต่ฝัน
รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารักกันทำไม
รักของเธอ พาใจข้าเศร้าหมอง
บางครั้งจอง ให้ใจ ฉันสุขสันต์
เมื่อมีรัก ไม่จริง ใจต่อกัน
ทุกคืนวัน ผ่านมา ฉันฝันไป
รักคือดวงจันทร์ (รักคือดวงจันทร์) รักคือตะวัน (รักคือตะวัน )
รักคือไฟอัน ร้อนแรง ไร้จุดหมาย
แต่รักฉัน คือฝันไป ค่ำลงดวงใจ ฉันได้แต่ฝัน
วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2553
มีดอกไม้มาฝาก-นัดดา วิยกาญจน์
มีดอกไม้มาฝาก-นัดดา วิยกาญจน์
..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ มอบ ให้ด้วยใจ ใจแห่งรักที่แสน ละมุน ..ความรัก ติดตรึง คิดถึง จึงมา อยากพบ พูดจา ปรารถ-นา ให้เธอ ชื่น ชม ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหา นำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ มอบ ให้ด้วยใจ ใจแห่งรักที่แสน ละมุน ..ความรัก เรียกหา รอช้า อยู่ใย รีบรับ เอาไป ก่อนดอกไม้จะร่วง โรยรา ..ความรัก ติดตรึง คิดถึง จึงมา อยากพบ พูดจา ปรารถ-นา ให้เธอ ชื่น ชม ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ ..ความรัก เรียกหา รอช้า อยู่ใย รีบรับ เอาไป ก่อนดอกไม้จะร่วง โรยรา ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมาฝาก..
..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ มอบ ให้ด้วยใจ ใจแห่งรักที่แสน ละมุน ..ความรัก ติดตรึง คิดถึง จึงมา อยากพบ พูดจา ปรารถ-นา ให้เธอ ชื่น ชม ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหา นำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ มอบ ให้ด้วยใจ ใจแห่งรักที่แสน ละมุน ..ความรัก เรียกหา รอช้า อยู่ใย รีบรับ เอาไป ก่อนดอกไม้จะร่วง โรยรา ..ความรัก ติดตรึง คิดถึง จึงมา อยากพบ พูดจา ปรารถ-นา ให้เธอ ชื่น ชม ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ มี ดอกไม้มาฝาก ผูก โบว์รักร้อยเอาไว้ ..ความรัก เรียกหา รอช้า อยู่ใย รีบรับ เอาไป ก่อนดอกไม้จะร่วง โรยรา ..ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมา ให้ ด้วย ความคิดถึง จึงมาหานำรักมาฝาก..
วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553
ความในใจ-พิงค์แพนเตอร์
ความในใจ-พิงค์แพนเตอร์
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความหมายใด ซ่อนในดวงฤทัย
บ่งบอกความในใจ ที่ดวงตา
หากรู้ ว่ารักเจ้ายังหลีกเร้นหลบ
ถ้าพบ จะพาดวงใจเปี่ยมรักมา
แอบอารมณ์ละมุน อุ่นไอรักชักพา
ให้วิญญาสองเรา รื่นสราญ
โอ้ความรัก นั่นอยู่ไหน ไยจึงไม่เห็น
มองหา เช้าเย็นมิพบพาน
ใจเอ๋ยใจเรา โฉดเขลาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดิน ผ่านไป
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซอน ซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจสองเรา เรื่อยมา
โอ้ความรัก นั่นอยู่ไหน ไยจึงไม่เห็น
มองหา เช้าเย็นมิพบพาน
ใจเอ๋ยใจเรา โฉดเขลาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดิน ผ่านไป
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซอน ซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจสองเรา เรื่อย
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความหมายใด ซ่อนในดวงฤทัย
บ่งบอกความในใจ ที่ดวงตา
หากรู้ ว่ารักเจ้ายังหลีกเร้นหลบ
ถ้าพบ จะพาดวงใจเปี่ยมรักมา
แอบอารมณ์ละมุน อุ่นไอรักชักพา
ให้วิญญาสองเรา รื่นสราญ
โอ้ความรัก นั่นอยู่ไหน ไยจึงไม่เห็น
มองหา เช้าเย็นมิพบพาน
ใจเอ๋ยใจเรา โฉดเขลาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดิน ผ่านไป
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซอน ซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจสองเรา เรื่อยมา
โอ้ความรัก นั่นอยู่ไหน ไยจึงไม่เห็น
มองหา เช้าเย็นมิพบพาน
ใจเอ๋ยใจเรา โฉดเขลาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดิน ผ่านไป
หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซอน ซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจสองเรา เรื่อย
วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553
ระบำยอดหญ้า-ดอกไม้ป่า
ระบำยอดหญ้า-ดอกไม้ป่า
ลมรำเพยแผ่วพริ้วสยิวใบหญ้า โอนเอนใบอ่อนมา ถลาเล่นลม
เจ้าสะบัดพัดใบไปตามเพลง ท่วงทำนองเร้าเร่งตามแรงลม
ถึงคราวเจ้าเชื่องช้า ก็น่าชม เหมือนมวลหมู่ระบำ ชำนาญสม
น่ารักน่าชม จริงเจ้า
วันและคืนไม่เคย จะเฉยหยุดนิ่ง ชูใบงามเพริดพริ้ง แอ่นล้อลมว่าว
เจ้าสนุกของเจ้าไปตามเพลง ไม่ได้หวั่นหรือเกรงความตรมเศร้า
แม้ลมแดดแผดร้อน ดั่งไฟเผา เจ้ายังส่ายระบำ เล่นกับเงา
มองแล้วพาเรา เริงรื่น
โอ้ ยอด หญ้า เอยเจ้าเกิดมาสะเบยสุขใจทุกวันคืน
ไม่ มี โศก ตรม มีแต่ความเริงรมย์ไม่ได้เว้นวันคืน
ฉันเองอยากเป็นเหมือน เจ้าหนักหนาทุกวันไม่ต้องมา
นั่งทนฝืน ชีวิตคงชื่น รื่น รมย์
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
อยากให้รู้ใจ-เรนโบว์
อยากให้รู้ใจ-เรนโบว์
กี่ครั้งแล้วรักนั้นลาจาก
ลาจากเธอทิ้งไว้ให้ร้าวราน
ใครคอยดูแลและคอยปลอบขวัญ
คอยเธอนานวันรอให้เหมือนเดิม
เธอเคยรู้ไหมใครที่คอยห่วง
ยามถูกลวงดวงใจจนช้ำตรม
ยามเธอเจ็บปวดและเธอขื่นขม
ฉันตรอมตรมกว่าเธอรู้หรือไม่
อยากเพียงให้รู้ใจฉันมีสิ่งแอบใผ่และฝัน
เร้นรักไว้แสนนานนับวันหวั่นเธอจะจากฉันไป
อยากเพียงให้รู้ใจ รู้ในสิ่งแอบใฝ่และฝัน
รับรักไว้ลบลอยแผลนั่น
ฝากดวงใจกัน สักวันเธอคงจะรู้ดี
ลาจากเธอทิ้งไว้ให้ร้าวราน
ใครคอยดูแลและคอยปลอบขวัญ
คอยเธอนานวันรอให้เหมือนเดิม
เธอเคยรู้ไหมใครที่คอยห่วง
ยามถูกลวงดวงใจจนช้ำตรม
ยามเธอเจ็บปวดและเธอขื่นขม
ฉันตรอมตรมกว่าเธอรู้หรือไม่
อยากเพียงให้รู้ใจฉันมีสิ่งแอบใผ่และฝัน
เร้นรักไว้แสนนานนับวันหวั่นเธอจะจากฉันไป
อยากเพียงให้รู้ใจ รู้ในสิ่งแอบใฝ่และฝัน
รับรักไว้ลบลอยแผลนั่น
ฝากดวงใจกัน สักวันเธอคงจะรู้ดี
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
แมงมุม-แสงระวี
แมงมุม-แสงระวี
เธอคืบคลานเข้ามา ไม่ให้รู้ตัวก่อน
เธอไต่มาช้าช้า ไต่เข้ามา ในหัวใจ
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
เธอปล่อยใยบางบาง มัดใจทีละเส้น
พอส่ายตามองเห็น ก็มากมาย ดิ้นไม่ไหว
ไม่เตรียมตัวจะรับมือเท่าไหร่
เธอโจมตีหมดหัวใจ
จะป้องกัน ก็สายจนเกินไป
ใยรักเธอแน่นหนา
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
เธอปล่อยใยบางบาง มัดใจทีละเส้น
พอส่ายตามองเห็น ก็มากมาย ดิ้นไม่ไหว
ไม่เตรียมตัวจะรับมือเท่าไหร่
เธอโจมตีหมดหัวใจ
จะป้องกัน ก็สายจนเกินไป
ใยรักเธอแน่นหนา
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
รักเธอพันรอบใจ ชักใยพันแน่นหนา
รักเธอพันรอบใจ ชักใยพันแน่นหนา
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
แมงมุม แมงมุม แมงมุม ขยุ้มหัวใจ
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่-มะลิลาบราซิลเลี่ยน
ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่-มะลิลาบราซิลเลี่ยน
บอกซิเออ เธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร
บอกซิเออ เธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร
มองอยู่นานก็ดูเข้าที พอเห็นความหล่อเหมือนกัน
แต่มองนานนานแล้วก็ชักจะหวั่น ก็เริ่มจะเห็นไขมัน
ดูอีกทีเท่ดีไม่เบา กระเป๋าคงหนักเหมือนกัน
แต่ตอนทำตาซึ้ง เหมือนหมูชวนฝัน ยิ่งดูยิ่งขำกลิ้งเลย
ใจเธอดีช๊อบชอบจังเลย ไม่เค๊ยไม่เคยพบใคร
มาคอยเอาใจให้ดอกไม้เป็นเข่ง ร้องเพลงให้ฟังทุกวัน
อยากจะเอาหัวใจให้ไป ก็ชอบใจอยู่เหมือนกัน
แต่ควงกันเดินแล้วต้องคิดอีกนาน เดี๋ยวโดนเพื่อนล้อแย่เลย
อ้วนเอาไว้ให้ใคร อ้วนไปเพื่ออะไร
บอกซิเออ เธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร
บอกซิเออ เธอจะเอาเท่าไร เอาเท่าไร ไม่อ้วนเอาเท่าไร
มองอยู่นานก็ดูเข้าที พอเห็นความหล่อเหมือนกัน
แต่มองนานนานแล้วก็ชักจะหวั่น ก็เริ่มจะเห็นไขมัน
ดูอีกทีเท่ดีไม่เบา กระเป๋าคงหนักเหมือนกัน
แต่ตอนทำตาซึ้ง เหมือนหมูชวนฝัน ยิ่งดูยิ่งขำกลิ้งเลย
ใจเธอดีช๊อบชอบจังเลย ไม่เค๊ยไม่เคยพบใคร
มาคอยเอาใจให้ดอกไม้เป็นเข่ง ร้องเพลงให้ฟังทุกวัน
อยากจะเอาหัวใจให้ไป ก็ชอบใจอยู่เหมือนกัน
แต่ควงกันเดินแล้วต้องคิดอีกนาน เดี๋ยวโดนเพื่อนล้อแย่เลย
อ้วนเอาไว้ให้ใคร อ้วนไปเพื่ออะไร
ไอ้หนุ่มดอยเต่า-นกแล
ไอ้หนุ่มดอยเต่า-นกแล
ดอยเต่าบ้านเฮากันดาร หมู่เฮาจากบ้านไปหางานทำ
ทำงานเซาะเบี้ยหาเงิน ลำบากเหลือเกิน
ตากแดดหน้าดำ ทนเอาหนักเบาเช้าค่ำ
ทนเอาหนักเบาเช้าค่ำ มันแสนชอกช้ำ
ทำงานหาเงิน
ไอ้หนุ่มดอยเต่า มันเศร้าหัวใจ๋
กิ๊ดมากิ๊ดไป มันน้อยใจ๋แต๊เล่า
แต่ก่อนบ้านเฮา ดอยเต่าเมินมา
ลำบากหนักหนา น้ำตาเฮาไหล
พอถึงหน้าฝน เหมือนคนมีกรรม
ไฮ่นาที่ทำน้ำท่วมทั่วไป
อดอยากแต๊เล่า ดอยเต่าเฮานี้
เอ็นดูน้องปี้จะไปพึ่งไผ
พอถึงหน้าหนาว ก็หนาวก็เหน็ด
เดือนหกเดือนเจ็ด ก็ฮ้อนเหลือใจ๋
หน้าแล้งแห้งน้ำ จะทำจะใด
จะไปตี้ไหน น้ำกินบ่มี
ดอยเต่าบ่าเดียวเจริญ เซาะเบี้ยหาเงิน
ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ ทางการค้ำจุนพัฒนา
ทำไฮ่ไถนา น้ำต้าแสนสบาย
หนตางลาดยางมะตอย หนตางลาดยางมะตอย
บ้านป่าบ้านดอยไฟฟ้ามาถึง
ดอยเต่าบ้านเฮาบ่าเดี่ยว หมู่เฮาเก็บเกี่ยว
ข้าวปลาอาหาร อยู่ดีกินดี น้องปี้สำราญ
ข้าวปลาอาหาร สมบูรณ์พูนผล
รัฐบาลช่วยเหลือทุกคน บ่อับบ่จน ทุกคนม่วนใจ๋
เปิ้นแบ่งที่ดิน ทำกินไฮ่นา เลี้ยงปูเลี้ยงปลา
ปลูกผักปลูกไม้ พี่น้องหมู่เฮา
จากดอยเต่าไป ขอฮื้อขะใจ๋ ปิ๊กบ้านเสียเด๊อ
ปาป๊ามาม๊า-ฟอร์เอฟเวอร์
ปาป๊า มาม๊า - ฟอร์เอฟเวอร์
แรกไม่รัก เขาไม่รัก เลยก็ทำเฉยเมย
พอทำเฉย ซิใจเหมือนไฟ เพิ่งมารู้ เพิ่งมารู้
เรานะเองสนใจ มารู้รักเกือบตาย
หมดปัญญา เพราะรอรี โง่เพียงนี้ แสนจะอาย
งี่เง่าเหลือจะเอ่ยซ้ำมากมาย จนเธอชินชาจากฉัน
โอ้ปาป๊าโอ้มาม๊า ช่วยบอกทางฉันที มีทางไหนให้เรารักกัน
ฉันจะรัก เช่นปาป๊า รักมาม๊าทุกวัน รักทุกวันตลอดไป
โอ้โอ่โอโอ้โอ่โอ
ลาลาลาลาลา
ลาลาลาลาโอโอ้โอ
โอ้โอ่โอโอ้โอ่โอ
ลาลาลาลาลา
โอ๊ะโอ้โอลาลา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)